กระเบื้องปูพื้นแบบใด ตอบโจทย์ Smart Living
21 Nov, 2023 / By
Rpcshop
Smart Living ถือเป็นแนวความคิดของบ้านต้นแบบแห่งอนาคตที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานและทำให้คุณภาพการอยู่อาศัยนั้นสะดวกสบายและมีความสุขได้มากขึ้น โดยมีการใช้ระบบดิจิทัลเชื่อมโยงประตูหน้าต่าง อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านให้ทำงานได้ผ่านคำสั่งการด้วยมือถือหรืออินเตอร์เน็ต หรือที่เราเรียกว่า IoT หรือ Internet of Things นั่นเอง
ทั้งนี้ นอกจากเครือข่ายระบบดิจิทัลที่สำคัญต่อการทำให้บ้านเป็น Smart Living แล้ว การเลือกใช้งานกระเบื้องปูพื้นเอง ก็มีส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้บ้านของเรากลายเป็นบ้านแห่งอนาคตที่ประหยัดพลังงานพร้อมตอบโจทย์ต่อการอยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นเช่นกัน โดย 3 ชนิดกระเบื้องที่หากใครต้องการเปลี่ยนบ้านให้เข้าใกล้กับการเป็น Smart Living ควรพิจารณาเลือกใช้ ได้แก่
1.กระเบื้องแอนตี้แบคทีเรีย หรือ Hygienic Tiles
กระเบื้อง Anti – Bacterial หรือ Hygienic Tiles เป็นกระเบื้องที่ปัจจุบันกำลังค่อย ๆ ได้รับความนิยมแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เพราะเป็นนวัตกรรมที่ทำให้กระเบื้องมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราแบคทีเรียได้ ซึ่งแน่นอนว่าประโยชน์ทางตรงที่ได้รับก็คือ การทำให้สุขภาพร่างกายของสมาชิกในบ้านแข็งแรงและปลอดภัยจากโรคระบบทางเดินหายใจต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บ้านที่อยู่อาศัยเป็น Smart Living ได้อย่างเต็มตัวแท้จริง เพราะบ้านอัจฉริยะที่ไม่สามารถให้ความปลอดภัยและสุขภาพกายใจที่ดีต่อผู้อาศัยได้นั้น ย่อมไม่อาจเรียกได้เต็มปากว่าเป็นบ้าน Smart แสนสุขที่อยู่ได้อย่างอบอุ่นใจ ทั้งนี้ ประโยชน์ของกระเบื้องแอนตี้แบคทีเรีย ในทางอ้อมคือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลลงไปด้วยนั่นเอง
2.กระเบื้องไวนิล
กระเบื้องไวนิล หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่ากระเบื้องยางนั้น เป็นกระเบื้องที่มีคุณสมบัติสำคัญ 2 ประการคือ ช่วยกันลื่นได้ดี และสามารถทำให้ห้องเย็นได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณา 2 ข้อดีที่โดดเด่นนี้แล้ว ก็จะพบว่าเมื่อเราเลือกใช้กระเบื้องไวนิลปูพื้นในที่อยู่อาศัย จะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับการใช้ชีวิตของสมาชิกภายในบ้านได้ ลดความเสี่ยงในการลื่นล้มที่อาจนำมาซึ่งความเสียหายที่รุนแรง
ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยให้บ้านประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เพราะทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น เย็นนานขึ้น เครื่องปรับอากาศภายในบ้านจึงทำงานน้อยลงและทำให้ประหยัดค่าไฟได้มากขึ้นนั่นเอง และเมื่อบ้านอยู่แล้วปลอดภัย แถมประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถสะท้อนความเป็น Smart Living ออกมาได้อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น
3.กระเบื้อง Wook Plank
สำหรับใครที่หลงใหลการใช้ไม้จริงในการตกแต่งปูพื้นปูผนังนั้น กระเบื้อง Wook Plank ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า โดยกระเบื้อง Wood Plank นั้นไม่ใช่ไม้จริง เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากวัสดุทดแทนไม้ที่เหมือนไม้แท้ธรรมชาติ ซึ่งมีข้อดีคือ ราคาย่อมเยากว่า ดูแลรักษาง่ายกว่า มีความแข็งแรงทนทาน หมดกังวลเรื่องปลวก มด แมลง และความชื้นในหน้าฝน
ที่สำคัญคือ การใช้กระเบื้อง Wood Plank ทดแทนการใช้งานไม้จริงนั้น ถือเป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อม อันนำไปสู่การช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อน ช่วยประหยัดพลังงานและทรัพยากรโลก ตลอดจนช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้รอบด้านอีกด้วย
Smart Living ที่แท้จริงนั้น คือบ้านที่อยู่แล้วปลอดภัย สะดวกสบาย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นภาพรวมของบ้านในฝันที่ไม่ได้ให้ความสุขแค่กับสมาชิกภายใต้หลังคาครัวเรือนเดียวกันเท่านั้น แต่ยังส่งผลประโยชน์ไม่มากก็น้อยสู่ผู้คน สังคม ครัวเรือนอื่น ๆ และโลกใบนี้ด้วย ซึ่งนั่นเองที่แม้ระบบ IoT จะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง Smart Living แต่การเลือกใช้วัสดุตกแต่ง ต่อเติม หรือสร้างบ้าน
อย่างกระเบื้องก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะกระเบื้องคือวัสดุที่สัมผัสใกล้ชิดกับการอยู่อาศัยทุกวัน ในทุกพื้นที่ ดังนั้น หากไม่สามารถเลือกกระเบื้องที่ตอบโจทย์ส่งเสริมการประหยัดพลังงาน ความปลอดภัยและยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยได้ดีแล้ว ก็อาจจะยังไม่ถือว่าบ้านหลังนั้นเป็น Smart Living ได้แท้จริงแบบ 100% เต็ม