กระเบื้องไวนิล กับ พรม แบบไหนนำมาปูพื้นดีที่สุด!
09 Jun, 2021 / By
Rpcshop
สำหรับออฟฟิศ สำนักงาน หรือ บ้านที่ต้องการความหรูหรา การเลือกวัสดุตกแต่งพื้นถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ที่กินขนาดกว้างใหญ่
ส่งผลต่อบรรยากาศภาพรวมมากที่สุด จนอาจกล่าวได้ว่า ถ้าพื้นไม่หรู ต่อให้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูดีแค่ไหน ก็สร้างบรรยากาศที่ดีอย่างที่ใจต้องการไม่ได้ ทั้งนี้ อาจมีหลายคนกำลังชั่งใจอยู่ว่า ระหว่าง พรม กับ กระเบื้องไวนิล นั้น ควรเลือกใช้วัสดุใดตกแต่งพื้นดี
วันนี้เราจึงสรุปประเด็นสำคัญในการเลือกมาฝากกันโดยเปรียบเทียบให้เห็นความโดดเด่นที่แตกต่างกันระหว่าง 2 วัสดุ เพื่อให้ตัดสินใจเลือกได้ง่ายมากขึ้น ดังต่อไปนี้
1.ความสวยงามหรูหรา
ทั้งพรมและ กระเบื้องไวนิล ถือว่ามีความสวยงามที่ช่วยส่งเสริมความหรูหราให้กับพื้นที่ได้ดีด้วยกันทั้งคู่ โดยต่างก็มีสีสันให้เลือกหลากหลาย เข้ากันได้กับทุกสไตล์การตกแต่ง แต่อย่างไรก็ตาม กระเบื้องไวนิล ยังถือว่าโดดเด่นกว่าในเรื่องของลวดลาย
เพราะสามารถพิมพ์ลายที่เหมือนจริงได้มากกว่าพรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลวดลายธรรมชาติ ที่ผิวสัมผัสและลวดลายไม้ ลายหินอ่อนของกระเบื้องไวนิลนั้น ให้ความเหมือนจริง ให้อารมณ์ความรู้สึกเป็นธรรมชาติได้มากกว่า
2.ความสะดวกสบายในการปู ติดตั้ง รื้อถอน
เมื่อมองผิวเผินใครๆ ก็อาจคิดว่าพรมนั้นปูง่ายกว่ากระเบื้อง แต่ในปัจจุบัน กระเบื้องไวนิลมีนวัตกรรมใหม่ที่เป็นระบบคลิกล็อกอัจฉริยะ ที่ไม่ต้องใช้กาวทา ไม่ต้องง้อช่างติดตั้ง สามารถวางกระเบื้องเรียงต่อกันให้ลงล็อกติดสนิทได้เลย
จึงทำให้พรมกลายเป็นวัสดุที่ปูได้ยากกว่าไปโดยปริยาย ซึ่งจริงๆ แล้วการปูพรมนั้นก็ควรจ้างช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้งจะดีกว่า แต่สำหรับกระเบื้องคล็กล็อกใครๆ ก็สามารถปูเองได้แบบ DIY
นอกจากนั้นแล้ว เมื่อเกิดความชำรุดเสียหาย กระเบื้องไวนิลสามารถเปลี่ยนซ่อมได้ง่ายกว่าคือแผ่นต่อแผ่น แต่ถ้าพรมเกิดฉีก ขาด เสียหาย การซ่อมปะ จะทำให้เกิดความไม่สวยงาม ส่วนการเปลี่ยนทั้งผืนก็จะทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่า
3.การดูแลรักษาทำความสะอาด
ข้อดีของพรมคือ เก็บฝุ่น ทำให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย แต่ในข้อดีนี้ก็กลับกลายเป็นข้อเสียคือ เป็นการอมฝุ่นเอาไว้ในพรม ซึ่งก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคได้ง่าย รวมถึงพรมยังทำความสะอาดดูแลได้ยากกว่า อ่อนไหวต่อความชื้น น้ำ และสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่า
ในขณะที่กระเบื้องไวนิลนั้น ทำความสะอาดง่าย คือปัด กวาด เช็ดถู ได้สะดวก ไม่ต้องอมฝุ่น ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค จึงทำให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า และไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา
4.ความปลอดภัยในการใช้งาน
พรมนั้นถือว่ามีความปลอดภัยมากกว่ากระเบื้อง เพราะ กันลื่นได้ดีกว่า แม้ว่าปัจจุบันกระเบื้องไวนิลจะพัฒนาให้มีคุณสมบัติ Anti Slip
แต่ก็ยังคงไม่เทียบเท่ากับพรมอยู่ดี เพราะผืนผิวของพรมนั้นนุ่มมากกว่า แต่กระนั้น หากเลือกใช้การปูพรมในออฟฟิศ ความกันลื่นนี้ก็อาจกลายเป็นจุดด้อยไปได้เช่นกัน
เพราะจะทำให้เก้าอี้เลื่อน หรือเฟอร์นิเจอร์ล้อเลื่อนต่างๆ ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าไร กลายเป็นก่อให้เกิดความยุ่งยากในการเคลื่อนย้ายได้ แต่หากเป็นกระเบื้องไวนิลนั้น จะแคลื่อนย้ายได้แบบสะดวกสบายไร้กังวล เพราะทนต่อแรงขีดข่วนได้ดี
5.พรมกันเสียงสะท้อน กระเบื้องไวนิลช่วยให้ห้องเย็น
จุดนี้ถือเป็นความโดดเด่นที่เราต้องเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการ เพราะวัสดุที่เป็นผ้าของพรมนั้น จะมีความสามารถในการดูดซับเสียงได้ดีกว่ากระเบื้องไวนิล ทำให้ลดปัญหาเสียงก้องเสียงสะท้อนได้ดี เหมาะสำหรับการปูใช้งานในห้องประชุม
ซึ่งกระเบื้องไวนิลนั้นด้อยกว่าจริงในจุดนี้ แต่หากเป็นเรื่องช่วยทำให้ห้องเย็นล่ะก็ กระเบื้องไวนิลนั้นชนะขาด เพราะมีส่วนช่วยในการปรับอุณหภูมิ ทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ประหยัดไฟได้มากขึ้น
ดังนั้น เราจึงต้องเลือกให้ดีว่าอยากได้ข้อดีข้อไหนมากกว่ากันระหว่าง กันเสียงสะท้อน หรือแก้ไขปัญหาห้องร้อนกันแน่ ทั้งพรมและกระเบื้องไวนิล เป็นวัสดุตกแต่งปูพื้นที่มีความหรูหรา สวยงาม โดดเด่นไม่แพ้กัน
แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน และความเหมาะสมกับแต่ละห้อง แต่ละพื้นดี ก็มีข้อดีข้อเด่นที่แตกต่างกันอยู่อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกระเบื้องไวนิลค่อนข้างที่จะตอบโจทย์การใช้งาน การติดตั้ง รื้อถอน และการดูแลรักษาได้ดีกว่า
แต่ถึงกระนั้น หากสุดท้ายแล้ว สไตล์การตกแต่งที่ต้องการคือความหรูหราสไตล์พรมแล้วล่ะก็ กระเบื้องไวนิลก็คงต้องหลีกทางให้ แต่นั่นก็ต้องหมายความว่า เราพร้อมแล้วที่จะยอมรับเรื่องค่าใช้จ่าย ความยุ่งยาก ในการดูแลรักษาติดตั้ง ที่มากกว่าการใช้กระเบื้องไวนิล