หากใครกำลังเลือกซื้อ กระเบื้องไวนิล ไปใช้สำหรับตกแต่งห้องอยู่ล่ะก็ เชื่อเลยว่าอาจมีความสงสัยเกิดขึ้นในใจ ว่าเจ้า “กระเบื้องไวนิล” มีความแตกต่างจาก “กระเบื้องลามิเนต” ตรงไหน เพราะดูผิวเผินจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไร

ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ เราจะมาทำความรู้จักกับความแตกต่างระหว่าง 2 ชนิดกระเบื้องนี้กันให้มากขึ้นครับ โดยมีรายละเอียด จุดเด่นจุดด้อยของกระเบื้องทั้ง 2 ชนิดที่ไม่เหมือนกัน ดังต่อไปนี้

1.ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน

กระเบื้องไวนิลนั้น มีอีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันก็คือ “กระเบื้องยาง” ส่วนกระเบื้องลามิเนตนั้น หลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อเรียกกันเต็มๆ อีกชื่อว่า กระเบื้องไม้ลามิเนต

ซึ่ง “ยาง” กับ “ไม้” นี่แหละครับคือความแตกต่าง เพราะวัสดุพื้นฐานของไวนิลนั้นทำจากยาง ส่วนลามิเนตนั้นทำจากไม้ แม้จะไม่ใช่ไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ก็ยังคงมีความเป็นไม้มากกว่า ส่วนทางฝั่งกระเบื้องไวนิลนั้น มีทั้งแบบที่เป็นยางร้อยเปอร์เซ็นต์เลย และแบบ SPC หรือ Stone Plastic Composite

หรือผสมระหว่างยางกับเซรามิก และด้วยความแตกต่างนี้เองจึงทำให้คุณสมบัติและฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมนั้นแตกต่างตามกันไปด้วย

2.กันน้ำและความร้อนได้แตกต่างกัน

ด้วยพื้นฐานของวัสดุที่เป็นไม้ จึงทำให้กระเบื้องลามิเนตทนความร้อนและน้ำได้น้อยกว่ากระเบื้องไวนิลที่มีพื้นฐานวัสดุเป็นยาง 

แม้จะเป็นกระเบื้องลามิเนตที่ดีคุณภาพสูงแค่ไหน หากเปรียบเทียบความทนต่อความร้อน ความชื้น และน้ำแล้ว กระเบื้องไวนิลก็ชนะขาดกว่ามาก

เพราะอย่างที่เราทราบกันดีกว่า กระเบื้องไม้นั้น ดูแลรักษายาก แม้จะมีความสวยงามที่น่าหลงใหล ดังนั้น หากต้องการกระเบื้องที่ดูแลรักษาง่ายกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า กระเบื้องไวนิลจึงเป็นคำตอบที่ดีกว่ากระเบื้องลามิเนต

3.ฟังก์ชั่นการใช้งานแตกต่างกัน

ด้วยความเป็นยาง กระเบื้องไวนิลจึงมีความยืดหยุ่นกว่า มีคุณสมบัติในการกันความร้อน ความชื้นและน้ำได้มากกว่า จึงทำให้สามารถใช้งานปูพื้นได้กับทุกห้อง ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ

แต่สำหรับกระเบื้องลามิเนตที่พื้นฐานมีไม้เป็นส่วนประกอบนั้น ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการนำไปใช้ปูพื้นห้องน้ำ และห้องครัว เพราะเสี่งที่จะถูกความร้อนและน้ำได้ง่ายมาก ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และนำมาซึ่งปัญหาความเสียหายที่ต้องซ่อมแซมให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอยู่เสมอ

4.เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่างกัน

หากพูดถึงแง่ของการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมนั้น กระเบื้องลามิเนต จะเหนือกว่ากระเบื้องไวนิลแบบไม่ต้องเปรียบเทียบอะไรมาก เพราะวัสดุหลักทำมาจากไม้ หากต้องถึงกระบวนการย่อยสลาย ก็จะทำได้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างใดๆ

ในขณะที่กระเบื้องไวนิลคือยาง หากใช้งานจนถึงขั้นผุพังแล้ว ใช้ต่อไม่ได้แล้ว การทำลายทิ้งนั้นจะมีโอกาสเสี่ยงเกิดการตกค้างของสารพิษได้มากกว่า แต่ก็สามารถควบคุมได้ให้ปลอดภัยมากที่สุด เช่นใช้การฝังกลบ หรือจะนำไปสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไปก็ได้

ในภาพรวมนั้นกระเบื้องลามิเนตจะมีความคล้ายไม้ และให้ความรู้สึกในการสัมผัสที่เหมือนไม้จริงมากกว่า แต่กระเบื้องไวนิลเองก็ใช่ว่าจะไม่สวยงาม เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตทันสมัย ทำให้กระเบื้องไวนิลลายไม้มีความสวยงาม หรูหรา เหมือนไม้จริงมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม หากเราจะต้องตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้องเพียงแค่ชนิดเดียว การโฟกัสที่ฟังก์ชั่นการใช้งานน่าจะเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจที่ดีที่สุด

ซึ่งกระเบื้องไวนิลนั้นตอบโจทย์ได้ครอบคลุมมากกว่า ทั้งในเรื่องของฟังก์การใช้งานที่ใช้งานได้กับทุกห้อง และเรื่องการดูแลรักษา ทำความสะอาดที่ทำได้ง่ายมากๆ ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้มากกว่า