ในการตกแต่งต่อเติมห้อง บ้าน ปรับปรุงพื้นที่ ตลอดจนการสร้างบ้าน สร้างอาคารนั้น ส่วนมากแล้วจะมีการซื้อกระเบื้องไม่ว่าจะกระเบื้องปูพื้น และกระเบื้องปูผนังพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายๆ คนอาจโฟกัสให้ความสำคัญแต่เพียงแค่ “ราคา” ที่ก็ในเมื่อเราซื้อเยอะ ก็ควรที่จะได้ราคาถูกที่สุด แต่ทั้งนี้ เมื่อได้ราคาที่พอใจแล้ว เราก็ยังมีเรื่องที่ต้องใส่ใจอีก ไม่เช่นนั้นล่ะก็ อาจก่อให้เกิดปัญหาและปวดหัวภายหลังได้ โดย 3 สิ่งสำคัญที่ต้องตรวจดูให้ดีในการซื้อกระเบื้องล็อตใหญ่ คราวละมากๆ นั้น ได้แก่

1. เฉดสีกระเบื้องผิดเพี้ยน

อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่มีใครเก็บมาใส่ใจเท่าไร แต่ในความเป็นจริงนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มากเลยสำหรับการตกแต่งด้วยกระเบื้องปูพื้น หรือปูผนัง เพราะบ่อยครั้ง กระเบื้องล็อตใหญ่ที่เราซื้อมา เลือกสีเลือกลายมาเป็นอย่างดีแล้ว ก็มีบางแผ่น หรือหลายๆ แผ่น ที่เฉดสีผิดเพี้ยนไป ไม่ตรงกัน ทำให้เมื่อปูไปเต็มพื้นที่ จะเกิดเป็นรอยตำหนิที่สีแตกต่าง ทำให้ไม่สวยงาม ซึ่งเมื่อสั่งซื้อกระเบื้องมาแก้ไข บางทีก็อาจจะหาสีเดิมไม่ได้อีก เพราะกระเบื้องแต่ละล็อตนั้น แม้จะสีเดียวกัน ก็อาจมีความแตกต่างของเฉดสีได้ โดยมีสาเหตุมาจากกระบวนการผลิต อาทิ กระดาษจากกล่องติดหน้ากระเบื้อง ความไม่สม่ำเสมอของสีน้ำดินในแต่ละบ่อ น้ำยา Wax ไม่แห้งและซึมติดกับกล่อง เป็นต้น ดังนั้น เมื่อซื้อกระเบื้องจำนวนมากๆ ในคราวเดียว จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องสีให้ดี แล้วสอบถามจากผู้จัดจำหน่ายด้วยว่า เป็นสีกระเบื้องที่หาง่ายหรือไม่ เพื่อหากเกิดปัญหาสีเพี้ยน จะได้มีสำรองเปลี่ยนได้ง่าย

2. กระเบื้องโก่ง

นับว่าเป็นปัญหาอันตรายหนักกว่าเฉดสีกระเบื้องผิดเพี้ยนมาก เพราะการที่กระเบื้องโก่งนั้น จะส่งผลต่อประสิทธิภาพและคุณภาพในการใช้งานโดยตรง ทำให้เมื่อปูแล้วไม่สวยงาม ไม่เรียบ แตกหักง่าย หรืออาจส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ใช้งานได้ ซึ่งสาเหตุของปัญหากระเบื้องโก่งนั้น เกิดมาจากขั้นตอนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการควบคุมเรื่องความหนาแน่นของกระเบื้องดิบให้ดี ตลอดจนไม่ได้มีการทดสอบ หรือควบคุมคุณมากในการทดสอบด้วยเครื่องวัดความโก่งให้ดี จึงทำให้กระเบื้องมีปัญหา ดังนั้น ในการตรวจรับกระเบื้องเมื่อทำการสั่งซื้อ จึงต้องใส่ใจ และพิถีพิถันให้มาก เพื่อให้ได้กระเบื้องที่ดีที่สุดสำหรับนำมาใช้งาน

3. กระเบื้องบิ่นมุมหักมุม

สาเหตุของปัญหากระเบื้องบิ่นมุม หักมุมนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการบรรจุหีบห่อกระเบื้องที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีการใส่มุมรับแรงกระแทก ไม่มีวัสดุรับแรงกระแทกที่มุมกล่อง ทำให้เมื่อขนส่งกระเบื้องจำนวนมากแล้ว ก็จะมีโอกาสที่จะเกิดการกดทับ กระแทกจนกระเบื้องบิ่นมุมแตกหักได้ ดังนั้น ในการซื้อกระเบื้องล็อตใหญ่ๆ นั้น เราจึงใส่ใจเพียงแค่คุณภาพของกระเบื้องอย่างเดียวไม่ได้ แต่จำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณภาพในการขนส่งด้วย ควรสอบถามวิธีการจัดส่ง ตรวจสอบถูกแพ็คเกจจิ้ง กล่องในการบรรจุกระเบื้องให้ดี รวมถึงอาจจำเป็นต้องสอบถามผู้จัดจำหน่ายด้วยว่า หากกระเบื้องมีปัญหาบิ่น แตกหัก จะมีวิธีการแก้ไข เปลี่ยนคืน อย่างไร เพราะการต้องเปลี่ยนกระเบื้องล็อตใหม่ที่บิ่นมุมนั้น นอกจากจะทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการแล้ว ยังอาจวนกลับไปเจอปัญหากระเบื้องโก่ง กระเบื้องเฉดสีผิดเพี้ยนได้อีกด้วย

จากภาพรวมของ 3 ปัญหาในการซื้อกระเบื้องคราวละจำนวนมากๆ เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า การเจาะจงเพียงแค่กระเบื้องราคาถูกและสีสันสวยงาม โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพ ความเป็นมืออาชีพ และความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาบานปลายตามมาภายหลังได้ ซึ่งปัญหากระเบื้องสีเพี้ยน กระเบื้องบิ่นมุม และกระเบื้องโก่งนั้น อาจนำมาซึ่งความเสียหายที่แพงกว่าการตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้องที่ราคาสูงขึ้นมาอีกนิด แต่มีคุณภาพมากกว่า ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่เป็นมืออาชีพมากกว่าเสียอีก ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจสั่งซื้อ เลือกซื้อกระเบื้องกับร้านใดล่ะก็ อย่ารีบใจเร็วด่วนได้กับราคาที่ถูกใจ แต่ต้องชั่งใจ ใส่ใจพิจารณาเลือกซื้อสอบถามรายละเอียดให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเราเอง