กระเบื้องโมเสค คือ กระเบื้องตกแต่งที่ได้รับความนิยมใช้งานมาตั้งแต่สมัยโบราณ และปัจจุบันก็ยังเป็นตัวเลือกที่ขาดไม่ได้ หากต้องการเสริมความสวยงามให้กับพื้นที่ห้องต่าง ๆ ลักษณะเด่นของ กระเบื้องโมเสค คือ เป็นกระเบื้องขนาดเล็กเรียงตัวต่อกกันบนผืนตาข่าย ซึ่งใน 1 ผืนนั้นสามารถมีกระเบื้องเล็ก ๆ หลายสีหลายลายเรียงต่อกันได้ จึงทำให้เกิดความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างมากเมื่อนำไปออกแบบตกแต่งให้ลงตัวกับสถานที่ที่ต้องการ

แต่อย่างไรก็ตาม การจะใช้ กระเบื้องโมเสค ตกแต่งพื้นที่ให้เกิดความสวยงามลงตัวได้จริง ๆ นั้น ก็จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจและความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระเบื้องโมเสคด้วย โดย 3 เทคนิคในการเลือกกระเบื้องโมเสคให้สามารถตกแต่งห้องที่ต้องการให้สวยงามตอบโจทย์ได้มากที่สุดนั้น มีดังต่อไปนี้

1.เลือกประเภทกระเบื้องโมเสคให้ตอบโจทย์การใช้งาน

กระเบื้องโมเสค สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็นอีกหลายชนิด ขึ้นกับวัสดุที่นำมาใช้ทำ เช่น กระเบื้องโมเสคเซรามิค กระเบื้องโมเสคแก้ว กระเบื้องโมเสคพอร์ซเลน กระเบื้องโมเสคหิน เป็นต้น โดยวัสดุที่นำมาใช้ผลิตกระเบื้องโมเสคที่แตกต่างกันไป ก็จะมีลักษณะความสวยงามที่แตกต่างกันไปด้วย รวมถึงความแข็งแรง และคุณสมบัติในการใช้งานที่ทรงประสิทธิภาพก็จะต่างกัน เช่น กระเบื้องโมเสคแก้วนั้น จะมีความสวยงามที่มากกว่ากระเบื้องโมเสคเซรามิค ในที่ก็มีความแข็งแรงมากกว่า มีค่าการดูดซึมน้ำที่ต่ำกว่า จึงทำให้เหมาะกับการใช้ปูพื้นสระว่ายน้ำ หรือพื้นที่ที่ต้องเปียกชื้นเป็นประจำ แต่กระเบื้องโมเสคแก้วนั้น ก็ต้องการการดูแลรักษาที่พิถีพิถันกว่า เพราะเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายกว่ากระเบื้องเซรามิค รวมถึงยังมีราคาที่สูงกว่าด้วย

ดังนั้น โจทย์แรกของการตัดสินใจเลือกกระเบื้องโมเสค จึงต้องตอบให้ได้ว่า เรากำลังอยากใช้กระเบื้องโมเสคตกแต่งพื้นที่ลักษณะใด และเราชื่ชอบความสวยงาม ความแข็งแรง ของกระเบื้องโมเสคแบบไหน รวมถึงมีงบประมาณมากน้อยเพียงใดด้วย

2.เลือกสีกระเบื้องโมเสคให้ตัดกับสีของพื้นผนัง

ด้วยลักษณะเด่นของลวดลาย สีสัน และการเรียงตัวต่อกันที่สร้างสรรค์ได้ตามจินตนาการ เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนของกระเบื้องโมเสค จึงทำให้มักได้รับการนำไปใช้เป็นกระเบื้อง “ตัดลาย” สร้างความโดดเด่นให้พื้นหรือผนังอย่างแพร่หลาย เช่น ผืนผนังสีขาว ตัดลายด้วยกระเบื้องโมเสคสีทอง พื้นผนังสีดำ ตัดลายด้วยกระเบื้องโมเสคสีเงิน เป็นต้น ซึ่งในการใช้กระเบื้องโมเสคตัดลายนั้น ทำเพื่อให้ผนังและพื้นที่เคยเป็นสีเดียวเรียบ ๆ ดูโดดเด่นขึ้นมา มีรายละเอียด มีมิติความสวยงามที่เพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น จุดสำคัญเลยก็คือ เราจึงต้องไม่เลือกสีของกระเบื้องโมเสคที่เป็นโทนเดียวกันกับสีพื้นหรือผนังเด็ดขาด เพราะจะไม่ได้ช่วยทำให้เกิดความโดดเด่น อีกทั้งยังทำให้เกิดบรรยากาศที่จืดชืดลงได้ เช่น พื้นผนังสีขาว ก็ไม่ควรเลือกตัดลายด้วยกระเบื้องโมเสคสีขาวหรือสีเงิน แต่ควรตัดลายด้วยกระเบื้องโมเสคสีทองหรือสีสันอื่น ๆ ที่สดใสและต่างไปจากโทนสีขาวให้ได้ชัดเจนมากที่สุด เป็นต้น

3.เลือกกระเบื้องโมเสคที่มีรอยต่อให้น้อยเข้าไว้

อย่างที่บอกไปแล้วว่ากระเบื้องโมเสคเป็นกระเบื้องขนาดเล็กที่นำมาเรียงตัวต่อกันบนผืนตาข่าย ดังนั้น จึงมีรอยต่อและร่องยาแนวเป็นจำมาก ยิ่งกระเบื้องโมเสคมีขนาดเล็กมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีรอยต่อมากขึ้น ซึ่งรอยต่อตรงนี้จะทำให้การดูแลรักษาความสะอาดเป็นไปได้ยาก ต้องพิถีพิถัน และหากปล่อยให้สกปรกแล้ว ก็จะกลายเป็นบดบังความสวยงามของกระเบื้องโมเสคไปได้

อีกทั้งกระเบื้องโมเสคจิ๋วที่มีรอยต่อเยอะ ยังยากต่อการปูต่อลายให้ลงตัวสวยงามด้วย นั่นเองจึงทำให้ในปัจจุบันหลาย ๆ คนจะนิยมกระเบื้องโมเสคที่มีขนาดใหญ่เข้าไว้ เพื่อให้รอยต่อหรือร่องยาแนวน้อยที่สุด ซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาดและการต่อลาย จึงสามารถทำให้เกิดความสวยงามและรักษาความโดดเด่นนั้นเอาไว้ได้อย่างง่ายดายกว่านั่นเอง

แม้กระเบื้องโมเสคจะมีความสวยงามโดดเด่นแตกต่างจากกระเบื้องอื่น ๆ แต่การจะปูกระเบื้องโมเสคให้ให้สวยลงตัว ดูเสริมสร้างความโดดเด่นให้กับพื้นที่ได้อย่างชัดเจนและตอบโจทย์การใช้งานได้นั้น ก็ต้องอาศัยการเลือกอย่างพิถีพิถัน เข้าใจเรื่องชนิดของกระเบื้องโมเสค รวมถึงยังต้องทราบด้วยว่าจะปูอย่างไรให้เหมาะกับสีสันและสไตล์การตกแต่งของพื้นที่ ตลอดไปจนถึงต้องทราบวิธีการดูแลรักษาที่ก็จะแตกต่างกันไปตามชนิดของกระเบื้องโมเสคที่เลือกใช้ด้วย เพราะถ้าดูแลรักษาไม่ดีพอความสวยของกระเบื้องโมเสคก็จะอยู่กับเราได้ไม่นานและไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ใน