นอกจากคุณภาพของ กระเบื้อง ปูพื้นที่ต้องใส่ใจเลือกอย่างพิถีพิถันแล้ว สีของ กระเบื้อง ก็เป็นสิ่งที่ควรต้องพิจารณาเลือกอย่างรอบคอบด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่ว่าจะเลือกจากสีที่ชอบได้ตามใจเลยแบบอิสระ

เนื่องจากสีของ กระเบื้อง นั้น ส่งผลต่อการใช้งานและภาพรวมบรรยากาศในพื้นที่นั้นๆ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ก่อนเลือกซื้อว่าจะใช้กระเบื้องสีอะไรดี ควรต้องพิจารณา 3 เรื่องหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

1.พิจารณาขนาดของห้องและพื้นที่ใช้งาน

สีของกระเบื้องจะเป็นตัวกำหนดความรู้สึกที่มีต่อพื้นที่นั้น ๆ ซึ่งหากเราเลือกใช้สีที่ไม่เหมาะสมกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการปูกระเบื้อง อาจทำให้เกิดบรรยากาศที่อึดอัด ไม่ปลอดโปร่งโล่งสบาย และไม่เอื้อต่อความรู้สึกดีที่จะใช้งานได้

โดยหากขนาดพื้นที่ห้องที่ต้องการปูกระเบื้องมีความใหญ่และกว้างขวางอยู่แล้ว กระเบื้องปูพื้นสีโทนร้อน หรือสีเข้มๆ เช่น สีวอลนัท สีชาร์โคล หรือสีดำ น้ำตาล เอิร์ธโทนอบอุ่น จะทำให้ห้องดูเล็กลงได้ ไม่ทำให้รู้สึกเคว้งคว้างจนเกินไป

แต่ถ้าหากพื้นที่ที่ต้องการปูกระเบื้องนั้นมีขนาดเล็ก แคบ การเลือกใช้กระเบื้องสีโทนอ่อน หรือสีธรรมชาติ ลายไม้ หรือเป็นสีขาวครีม นอกจากจะช่วยทำให้เกิดความสวยงามแบบคลาสสิคแล้ว ยังทำให้ห้อง หรือพื้นที่นั้นดูกว้างขวางได้มากขึ้นด้วย

2.พิจารณาการจับคู่สี

โดยปกติทั่วไปเรามักจะคุ้นเคยกับการปูกระเบื้องบนพื้นด้วยสีเพียงสีเดียว แต่ในความเป็นจริงเราสามารถจับคู่สี ใช้กระเบื้องมากกว่า 1 สีในการปูพื้นได้

อย่างเช่นการเลือกโทนสีกระเบื้องที่ตัดกันเล็กน้อย จะช่วยพรางตาปกปิดสิ่งสกปรกบนพื้นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งาน มีการทำกิจกรรมหรือสัญจรไปมาบ่อยๆ

โดยคู่สีที่เหมาะจะจับเข้ากันก็เช่น สีขาวกับสีเทา หรือจะเป็นสีครีมกับสีน้ำตาล ก็ช่วยเพิ่มความสวยงามและพรางตาจากสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นแล้ว ในแง่ของการพิจารณาจับคู่สี ยังหมายรวมถึง การให้ความสำคัญกับการเข้ากันของสีกระเบื้องปูพื้น กับสีของผนัง เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งรอบข้างด้วย

เพราะแม้จะใช้กระเบื้องปูพื้นสีเดียวตลอดทั้งพื้นที่ แต่หากไม่จับคู่สีให้เหมาะกับสีผนัง และเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่นั้น ก็จะทำให้เกิดบรรยากาศที่ไม่สวยงาม ไม่ปลอดโปร่ง ดูขัดตาขัดใจ และทำให้สูญเสียความรู้สึดีกับพื้นที่นั้นๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

3.พิจารณาการใช้งานของพื้นที่

พื้นห้องครัว พื้นห้องน้ำ พื้นห้องนอน ฯลฯ แต่ละพื้นที่ห้อง ก็มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ต่างกัน ต้องการสีของกระเบื้องที่เหมาะสมไม่เหมือนกันเพื่อสนับสนุนการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ห้องครัว แม้สีโทนเย็นจะช่วยทำให้ห้องครัวดูสว่าง ดูกว้างขวางมากขึ้น

แต่ก็จะเสี่ยงต่อคราบสิ่งสกปรก คราบน้ำมัน จากการทำอาหาร ดังนั้น สีเข้ม สีน้ำตาล อาจมีความเหมาะสมมากกว่า หรือห้องน้ำ ที่จริงๆ ก็ต้องเผชิญหน้ากับคราบสกปรกไม่น้อยหน้าห้องครัวเลย แต่ด้วยพื้นที่ของห้องน้ำที่แคบ การเลือกใช้สีโทนสว่างเพื่อให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

เพราะจะทำให้เราใช้งานห้องน้ำได้อย่างมีความสุขมากขึ้น หากรู้สึกว่า ห้องน้ำโปร่ง โล่งสบาย ไม่อึดอัด หรือพื้นห้องนอน แม้ส่วนตัวจะชื่นชอบสีเข้มๆ หรือสีหวานๆ สดใสมากแค่ไหน แต่ก็ควรเลือกใช้เป็นโทนเย็นพาสเทล จะเหมาะสมกว่า

เพราะสีโทนเย็นจะช่วยทำให้หลับสบาย นอนหลับได้ง่ายมากขึ้น ต่างจากสีโทนร้อน เข้มๆ ที่จะทำให้เกิดความรู้สึกระตือรือร้น จนอาจส่งผลต่อการนอนหลับได้ยาก ซึ่งไม่เหมาะกับห้องนอนที่ควรเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อน

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เราจะเลือกสีกระเบื้องสีไหนก็ได้ตามใจที่เราเห็นว่าสวย แต่กระนั้น ความสวยในขั้นตอนการเลือก กับ ความสวยและเหมาะสมกับการใช้งานจริงๆ เมื่อนำกระเบื้องสีนั้นๆ ปูพื้นไปแล้วมีความแตกต่างกันมาก

ดังนั้น เพื่อให้เราได้กระเบื้องที่สีสวยจริงๆ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์กับพื้นที่ได้จริงๆ ล่ะก็ การพิจารณาขนาดพื้นที่ จับคู่สีให้เข้ากับกับสภาพแวดล้อม

และคำนึงถึงลักษณะการใช้งานในพื้นที่นั้นๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากตัดสินใจเลือกสีกระเบื้องผิดพลาดไป อาจต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพื่อรื้อปูกระเบื้องชุดใหม่ได้ในภายหลัง