ดูจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับเรามาก แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะใกล้ตัวอย่างวิธีการปูกระเบื้อง เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างกระเบื้องแตก กระเบื้องโก่ง กระเบื้องไม่สนิทกัน จากการทำของตกใส่กระเบื้องหรือเพราะจากอายุการใช้งานจึงส่งผลให้กระเบื้องแตกหรือร้าว

ซึ่งส่วนใหญ่เราก็จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น เราคงไม่ยอมเสียเงินจ้างช่างเพื่อมารื้อกระเบื้องทั้งหมดออกแล้วปูใหม่หรอก วันนี้เราจึงมีวิธีการปูกระเบื้องต่างๆมานำเสนอ เผื่อว่าในอนาคตเราจะทำการซ่อมแซมกระเบื้องเหล่านี้ด้วยตัวเอง นอกจากจะส่งผลดีต่อตัวเราแล้ว ยังประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้คนในบ้านอีกด้วย ซึ่งหลักๆจะมี 3 แบบมาเริ่มกันด้วย

1.วิธีการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา

เป็นวิธีการปูกระเบื้องที่ง่าย รวดเร็ว ประหยัดเวลา ปูนไม่หกเลอะเทอะ เพราะการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา คือการนำปูนหลังกระเบื้องซึ่งรูปร่างจะคล้ายๆซาลาเปา จากนั้นวางกดลงไปบนพื้นผิวปูนหยาบ โดยที่ไม่ต้องเกลี่ยปูน ทำให้ปูนติดไม่สม่ำเสมอ จึงส่งผลให้กระเบื้องหลุด กร่อน แตกหักง่าย

เป็นแบบที่ไม่แนะนำอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากสงสัยว่าบ้านเราปูกระเบื้องแบบซาลาเปาหรือไม่ วิธีเช็คก็ง่ายนิดเดียว ด้วยการลองเคาะบนกระเบื้องของเราดูว่ามีเสียงโปร่งๆไหม ถ้ามีแสดงว่าบ้านเราปูกระเบื้องแบบซาบาเปาแล้วล่ะค่ะ

2.วิธีการปูกระเบื้องแบบเปียก 

เป็นวิธีที่ต้องขึงเชือกหาแนวดิ่งและแนวฉากของกระเบื้องในแถวแรก ก่อนที่จะปูกระเบื้อง เพื่อเป็นแนวในการปูแถวต่อไป เป็นวิธีที่นิยมมาก เพราะด้วยความเคยชินของช่างเนื่องจากเป็นวิธีการปูกระเบื้องที่สะดวกและง่ายต่อการติดตั้ง แต่ข้อเสียก็จะคล้ายๆกับการปูกระเบื้องแบบซาลาเปา

3.วิธีการปูกระเบื้องแบบปูนกาว

วิธีนี้จะต้องทำการเตรียมพื้นให้ก่อน ด้วยการเทปูนทรายเพื่อปรับระดับพื้นให้เรียบ เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการปูกระเบื้อง วิธีการปูกระเบื้องแบบนี้จะมีค่ายึดเกาะทูงกว่าทุกแบบ จึงส่งผลให้ไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องของการหลุด กร่อนภายหลังจากการปูกระเบื้องอีกด้วย

เมื่อรู้ถึงวิธีต่างๆในการปูกระเบื้องแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบทุกครั้งในการทำบ้านหรือต่อเติมบ้าน เพื่อป้องกันปัญหาภายหลังจากการปูกระเบื้องด้วยนะคะ ว่าแต่บทความหน้าเราจะมีสาระดีๆอะไรมาฝาก อย่าลืมติดตามนะคะ

สนใจเลือกกระเบื้องสวยๆ ได้ที่ http://www.rpcshop.net/