วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเจ้าของบ้าน
03 Feb, 2025 / By
rpcshop
การเลือกกระเบื้องกันลื่นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยในบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงต่อการลื่นล้ม เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือระเบียง บทความนี้จะแนะนำ วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น โดยใช้มาตรฐาน Ramp Test และค่า R เป็นเกณฑ์หลักในการพิจารณา
ความเข้าใจเกี่ยวกับ Ramp Test และค่า R
Ramp Test คืออะไร?
Ramp Test เป็นการทดสอบมาตรฐานที่ใช้วัดความสามารถในการกันลื่นของกระเบื้อง โดยทำการทดสอบบนพื้นเอียงที่มีการปรับองศาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่มีคนเดินบนพื้นผิวที่เปียกและมีน้ำมัน
ค่า R และความหมาย
ค่า R เป็นผลลัพธ์จาก Ramp Test แบ่งเป็นระดับตั้งแต่ R9 ถึง R13 โดย
R9: มีคุณสมบัติกันลื่นต่ำสุด
R13: มีคุณสมบัติกันลื่นสูงสุด
วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่นโดยใช้ค่า R
วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น ที่เหมาะสมควรพิจารณาค่า R ให้สอดคล้องกับพื้นที่ใช้งาน โดยมีแนวทางในการเลือกใช้ ดังต่อไปนี้
1. พื้นที่แห้งทั่วไป (R9-R10)
เหมาะสำหรับพื้นที่ในบ้านทั่วไป
ตัวอย่าง: ห้องนั่งเล่น ห้องนอน
2. พื้นที่เปียกบางครั้ง (R11)
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่อาจมีน้ำหกบ้างเป็นครั้งคราว
ตัวอย่าง: ห้องครัว ระเบียง ห้องน้ำโซนแห้ง
3. พื้นที่เปียกบ่อย (R12)
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำอยู่เป็นประจำ
ตัวอย่าง: ห้องน้ำ พื้นที่รอบสระว่ายน้ำ
4. พื้นที่เปียกตลอดเวลา (R13)
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ ตลอดเวลา
ตัวอย่าง: โรงงานอาหาร พื้นที่ล้างรถ
ปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกกระเบื้องกันลื่น
นอกจากค่า R แล้ว วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น ที่ดีควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบร่วมด้วย เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมนอกจากค่า R ในการเลือกกระเบื้องกันลื่น ได้แก่
1. ประเภทของกระเบื้องกันลื่น
กระเบื้องเซรามิคกันลื่น
กระเบื้องพอร์ซเลนกันลื่น
กระเบื้องหินธรรมชาติกันลื่น
กระเบื้องยางกันลื่น
เหตุผลเพราะประเภทของกระเบื้องนั้น มีส่วนสัมพันธ์กันกับความแข็งแรงทนทาน อายุการใช้งาน ตลอดไปจนถึงราคาต้นทุนในการวางแผนปูกระเบื้องด้วย
2. มาตรฐานความปลอดภัยกระเบื้อง
เลือกกระเบื้องที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล เช่น
DIN 51130 (มาตรฐานเยอรมันที่ใช้ Ramp Test)
BS 7976 (มาตรฐานอังกฤษ)
ANSI A137.1 (มาตรฐานอเมริกัน)
มอก. มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย
3. ลักษณะพื้นผิว
วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น ที่ดีควรพิจารณาลักษณะพื้นผิวที่เหมาะสมกับการใช้งาน
พื้นผิวขรุขระ
พื้นผิวเป็นลอน
พื้นผิวมีร่องเล็ก ๆ
4. ความทนทานและการดูแลรักษา
เลือกกระเบื้องที่:
ทนต่อรอยขีดข่วน
ทนต่อสารเคมี
ง่ายต่อการทำความสะอาด
วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่นตามพื้นที่ใช้งาน
กระเบื้องกันลื่นสำหรับห้องน้ำ
ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R อย่างน้อย R11
พิจารณาความทนทานต่อความชื้นและเชื้อรา
เลือกพื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย
กระเบื้องกันลื่นสำหรับห้องครัว
ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R อย่างน้อย R10 หรือ R11
เน้นความทนทานต่อคราบน้ำมันและอาหาร
พิจารณาความง่ายในการทำความสะอาด
กระเบื้องกันลื่นสำหรับพื้นที่ภายนอก
ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R อย่างน้อย R11 หรือ R12
เน้นความทนทานต่อสภาพอากาศและแสงแดด
พิจารณาการทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
ข้อควรระวังในการเลือกกระเบื้องกันลื่น
แม้ว่า วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น จะเน้นที่ความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ ดังนี้
กระเบื้องที่มีค่า R สูงอาจทำความสะอาดยากกว่า
พื้นผิวที่ขรุขระมากเกินไปอาจไม่สบายเท้าเมื่อเดินเป็นเวลานาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระเบื้องมีการรับรองมาตรฐานจริง
การดูแลรักษากระเบื้องกันลื่น
การดูแลรักษาที่ถูกต้องช่วยรักษาประสิทธิภาพการกันลื่นของกระเบื้อง:
ทำความสะอาดเป็นประจำด้วยน้ำยาที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง
ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยแตกหรือชำรุดทันที
สรุปวิธีเลือกกระเบื้องกันลื่นที่เหมาะสมที่สุด
การเลือกกระเบื้องกันลื่นที่เหมาะสมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับความปลอดภัยในบ้าน โดยสรุป วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น ที่ดีควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
ค่า R จาก Ramp Test ที่เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน
มาตรฐานความปลอดภัยที่ได้รับการรับรอง
ลักษณะพื้นผิวที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ความทนทานและการดูแลรักษา
ความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ใช้งาน
การเลือกกระเบื้องกันลื่นโดยใช้ค่า R เป็น วิธีเลือกกระเบื้องกันลื่น ที่มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การตัดสินใจเลือกกระเบื้องที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านของคุณ ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุการลื่นล้ม และสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในครอบครัว
ด้วยวิธีเลือกกระเบื้องกันลื่นที่ถูกต้องและการดูแลรักษาที่เหมาะสม คุณจะได้พื้นที่ที่ทั้งสวยงามและปลอดภัยสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ภายนอกบ้าน การลงทุนในกระเบื้องกันลื่นคุณภาพดีจึงเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับเจ้าของบ้านทุกคน