อาจจะดูเหมือนเป็นคำถามที่ง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับการปูกระเบื้องเพื่อสร้างหรือตกแต่งบ้านนั้น หลายครั้งก็มักประสบปัญหาซื้อกระเบื้องไม่พอ คำนวณไม่ถูกต้อง หรือซื้อมามากเกินไปจนกลายเป็นต้องเสียเงินไปโดยใช้เหตุ ทั้งนี้ เพื่อให้การซื้อกระเบื้องสำหรับสร้างบ้านหรือตกแต่งบ้านของทุกคน มีการคำนวณที่ไม่เหลือไม่ขาดมากเกินไป วันนี้ เรามีคำแนะนำง่ายๆ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการสั่งซื้อกระเบื้องให้ได้อย่างเหมาะสมมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ ครับ

1. ก่อนซื้อกระเบื้องทุกครั้งจำเป็นต้องทราบพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้องอย่างละเอียด ถูกต้อง โดยหลักการคำนวณพื้นที่ง่ายๆ ก็คือ พื้นที่ = ด้านกว้าง*ด้านยาว เช่นถ้าเราจะปูกระเบื้องในห้องกว้าง 3 เมตร และยาว 5 เมตร จะคำนวณพื้นที่ออกมาได้เป็น 3*5 เท่ากับ 15 ตร.ม.
2. เลือกกระเบื้องที่ต้องการ โดยพิจารณาจากขนาด และรูปร่างของกระเบื้อง เพื่อให้คำนวณได้อย่างลงตัวกับพื้นที่ที่ต้องการจะปูกระเบื้อง ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วกระเบื้อง 1 กล่องจะปูได้ 1 ตร.ม. ดังนั้น ถ้าเทียบตามพื้นที่ในข้อ 1 ที่ 15 ตร.ม. เราก็ต้องซื้อกระเบื้องอย่างน้อย 15 กล่อง เพื่อให้ปูได้ 15 ตร.ม.
3. อย่างไรก็ตามในการซื้อกระเบื้อง ไม่ควรซื้อแค่เพียงพอดีกับพื้นที่ แต่ควรซื้อเผื่อให้มากกว่าพื้นที่เล็กน้อย เพื่อไว้ใช้เผื่อเสีย หรือเผื่อกระเบื้องชำรุด ตลอดไปจนเผื่อไว้สำหรับซ่อมแซมด้วย โดยจำนวนที่แนะนำคือ ควรซื้อมากกว่าพื้นที่ที่ต้องการปูประมาณ 10% เท่ากับว่าถ้าจากโจทย์ห้องขนาด 15 ตร.ม. เราก็ควรซื้อกระเบื้องประมาณ 16-17 ตร.ม.
4. ข้อแนะนำในการซื้อเผื่อ คือควรซื้อพร้อมกันในล็อตเดียวคราวเดียว เพื่อให้เราได้กระเบื้องที่มีสีเดียวกัน เวลานำส่วนที่เผื่อมาซ่อมแซม จะได้ยังคงสภาพห้องให้มีสีเดียวกันได้อยู่ ทั้งนี้ เพราะเป็นไปได้อยู่เสมอ ที่กระเบื้องสีเดียวกัน ขนาดเดียวกัน แต่ผลิตคนละคราวคนละล็อตกัน จะมีสีที่เพี้ยน ต่างกันออกไป ดังนั้น จึงควรซื้อในคราวเดียว เพื่อให้เราสามารถควบคุมสีของห้องได้สวยงามมากที่สุด

แม้จะวัดพื้นที่มาอย่างดีแล้ว แต่ในการลงมือปฏิบัติงานจริง มีโอกาสบ่อยครั้งมาก ที่จะเกิดการผิดพลาด ปูผิด กระเบื้องแตกหัก จนทำให้กระเบื้องที่ซื้อมานั้นไม่พอ และต้องเสียเวลาไปซื้อใหม่ และเสี่ยงต่อการได้สีกระเบื้องที่เพี้ยนไป ทำให้ไม่สามารถสร้างบรรยากาศของห้องจากสีกระเบื้องตามเป้าหมายที่ต้องการได้ นั่นเองจึงเป็นเหตุผลให้ในการซื้อกระเบื้อง แนวทางที่เหมาะสมที่สุด จึงต้องทำการวัดอย่างรอบคอบ และเผื่อพิเศษเพิ่มมาสำหรับการคำนวณที่อาจผิดพลาด ตลอดไปจนเผื่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย เพื่อให้เราประหยัดเวลา ประหยัดต้นทุนแรงงาน และให้ได้กระเบื้องที่พอดี พอใช้สำหรับห้องของเราให้ได้มากที่สุดนั่นเอง