3 เรื่องที่ต้องพิจารณา ก่อนซื้อกระเบื้องไวนิล
27 Oct, 2021 / By
Rpcshop
กระเบื้องไวนิล หรือ กระเบื้องยางไวนิล ถือเป็นหนึ่งในกระเบื้องที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับกระเบื้องไวนิลลายไม้ ที่มีความสวยงาม เหมือนไม้ธรรมชาติจริง ๆ ทำให้ใช้ปูสร้างบรรยกาศในบ้าน หรือออฟฟิศได้อย่างสวยงามและมีความหรูหรา
แต่ทั้งนี้ ในการจะเลือกซื้อกระเบื้องไวนิลให้ได้คุณภาพ และตอบโจทย์กับการใช้งานนั้น จำเป็นต้องพิจารณาคำถามสำคัญ ดังต่อไปนี้
1.จะเลือกระเบื้องไวนิล SPC หรือ LVT
กระเบื้องไวนิล ในท้องตลาดปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มหลัก ๆ เมื่อแบ่งตามประเภทวัสดุที่ใช้ในการผลิต นั่นก็คือ กระเบื้องไวนิล SPC หรือ Stone Plastic Composite Tile เป็นกระเบื้องที่ผลิตขึ้นมาจากการผสมกันระหว่างกระเบื้องหินกับยางไวนิล ทำให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นมากกว่ากระเบื้องหินทั่วไป
และอีกประเภทหนึ่งคือกระเบื้องไวนิล LVT หรือ Luxury Vinyl Tile ที่ทำมาจากยางพีวีซีบริสุทธิ์ ไม่มีวัสดุอื่นผสม จึงทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า แข็งแรงและแตกหักได้ยากกว่า โดยกระเบื้องทั้ง 2 ชนิด มีคุณภาพคล้ายกัน แต่ LVT จะแข็งแรงทนทานมากกว่า จึงมีราคาสูงกว่านั่นเอง
ดังนั้น ในการเลือกซื้อจึงต้องตัดสินใจให้ดี พิจารณาจากการใช้งานว่าใช้ในพื้นที่ไหน และต้องการแบบแข็งแรงแค่ไหน จะได้เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน และกำหนดงบประมาณได้เหมาะสม
2.พิจารณาความหนาของกระเบื้องไวนิลให้รอบคอบ
โดยมากแล้วเวลาเลือกซื้อกระเบื้อง เรามักโฟกัสกันที่ราคาอย่างเดียว พอเห็นว่าเป็นกระเบื้องไวนิลเหมือนกัน ก็ดูแค่ว่าราคาที่ไหนถูกสุดก็ซื้อที่ร้านนั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ที่กระเบื้องไวนิลแต่ละร้านราคาไม่เท่ากัน ทั้งที่สีเหมือนกัน วัสดุเกรดเดียวกัน ก็เป็นเพราะ ความหนาที่แตกต่างกัน
โดยยิ่งกระเบื้องไวนิลมีความหนามาก ก็ยิ่งมีราคาสูงมากกว่า และความหนาจะส่งผลต่อความแข็งแรงโดยตรง ดังนั้น หากต้องการกระเบื้องไวนิลที่แข็งแรง ทนทาน จึงต้องพิจารณาความหนาของกระเบื้องให้ดี เปรียบเทียบทั้งความหนา และราคาด้วย เพื่อให้ได้กระเบื้องคุณภาพดีที่คุ้มค่ามากที่สุด
3.เลือกกระเบื้องไวนิลแบบทากาว มีกาวไหนตัว หรือคลิกล็อก
ทั้งกระเบื้องไวนิล SPC และ LVT จะมีแบ่งประเภทย่อยลงไปอีกตามการใช้งาน คือแบบที่ต้องทากาวเพื่อปู แบบลอกกาวที่มีกาวในตัวกระเบื้อง และแบบไม่ต้องใช้กาวเลย คือเป็นระบบคลิกล็อก ซึ่งรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน ก็ต้องอาศัยความชำนาญในการปูที่ต่างกัน เช่น แบบทากาวนั้นต้องอาศัยความชำนาญสูง อาจจะต้องจ้างช่างติดตั้ง แต่แบบที่เป็นระบบคลิกล็อก สามารถปูได้ง่ายด้วยตนเอง เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่า กระเบื้องไวนิลแต่ละแบบก็จะมีราคาต่างกัน ดังนั้น ในการเลือกกระเบื้องไวนิลด้วยการตัดสินจากราคา อาจไม่ตอบโจทย์เสมอไป เพราะหากเราเลือกแบบทากาว แต่สุดท้ายต้องไปจ้างช่างปูกระเบื้อง มีค่าปูเพิ่มเติม ก็อาจทำให้กลายเป็นเสียงบประมาณแพงกว่าได้ เป็นต้น
การจะเลือกซื้อกระเบื้องไวนิล ที่สวยงามตอบโจทย์การใช้งาน และมีราคาคุ้มค่าที่สุดนั้น จำเป็นต้องพิจารณาถึงประเภท และคุณสมบัติของกระเบื้องอย่างรอบคอบ เพราะประเภทและคุณสมบัติของกระเบื้องไวนิลแต่ละชนิดที่แตกต่างกัน ก็ส่งผลต่อราคาที่แตกต่างกันไปด้วย
การโฟกัสเพียงแค่ลายกระเบื้องที่ถูกใจ และราคาที่ถูกที่สุด บ่อยครั้งก็เป็นกับดักสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจพลาด จนได้กระเบื้องที่ไม่ตอบโจทย์กับการใช้งาน หรือไม่ก็จ่ายแพงเกินกว่าคุณภาพที่ได้รับ