ในบรรดากระเบื้องหลากหลายชนิดที่มีอยู่ในท้องตลาด “กระเบื้องไวนิล” หรือที่หลายๆ คนเรียกกันว่า “กระเบื้องยางไวนิล” นั้น ถือเป็นหนึ่งในชนิดกระเบื้องที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กระเบื้องชนิดอื่นๆ ด้วยเพราะมีความสวยงาม และมีความแข็งแกร่งในตัว

แต่ทั้งนี้ กระเบื้องไวนิลเองก็ยังมีหลายเกรด และมีหลากหลายประเภท ที่จำเป็นต้องพิจารณาให้ดีก่อนซื้อ เพื่อให้ได้กระเบื้องที่ดี และเหมาะสมกับการใช้งานให้ได้มากที่สุด โดยก่อนจะซื้อกระเบื้องไวนิล มีสิ่งที่ต้องรู้เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ดังต่อไปนี้

1.กระเบื้องไวนิล เหมาะกับพื้นที่ภายในอาคาร

คุณสมบัติสำคัญของกระเบื้องไวนิล คือ ทำความสะอาดง่าย ช่วยลดเสียงสะท้อน ทนความชื้นได้ดีกว่ากระเบื้องอีกหลายๆ ชนิด ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก และรองรับน้ำหนักได้ดี

ติดตั้งง่ายภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เมื่อใช้ปูพื้นภายในห้องนอน ห้องประชุม หรือภายในอาคารต่างๆ จะช่วยทำให้ดูแลรักษาและใช้งานได้ดีกว่ากระเบื้องเซรามิก หรือกระเบื้องไม้ กระเบื้องลามิเนตทั่วไป

แต่ถึงแม้จะเป็นกระเบื้องที่ค่อนข้างแข็งแรง ก็ยังไม่เหมาะกับการนำไปใช้ปูพื้นภายนอกอาคารอยู่ดี เนื่องจากภายนอกอาคารนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการสัญจรมาก

ต้องรองรับการใช้งานที่หลากหลาย จึงทำให้เสี่ยงต่อการชำรุดได้ง่ายกว่ากระเบื้องพอร์ซเลน หรือกระเบื้องแกรนิตโต้ที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกมากกว่า

ดังนั้น หากต้องการซื้อกระเบื้องสำหรับใช้ภายนอกอาคาร กระเบื้องไวนิล ก็อาจไม่ตอบโจทย์การใช้งานมากพอ แต่หากเป็นการใช้ปูพื้นภายในอาคาร และปูพื้นห้องต่างๆ กระเบื้องไวนิลถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.กระเบื้องไวนิลมีหลายวิธีการติดตั้ง

เรามักจะได้ยินโฆษณากระเบื้องไวนิลกันอยู่เสมอว่า “ติดตั้งง่าย” ติดตั้งเสร็จได้ภายในวันเดียวหรืออาจเร็วกว่านั้น แต่ทั้งนี้การจะติดตั้งได้เร็ว และง่ายแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง ความชำนาญในการติดตั้ง และ “ประเภทของกระเบื้องไวนิล” ด้วย

เพราะ กระเบื้องไวนิลนั้น มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบมีกาวในตัว หรือที่เรียกว่าแบบทากาว แบบไม่มีกาวในตัว และแบบคลิกล็อก หรือที่เรียกกันว่ากระเบื้อง Click Lock นั่นเอง

โดยถ้าเป็นแบบไม่มีกาวในตัว หมายความว่าเราต้องหากาว หรือใช้วิธีการปูแบบกระเบื้องปกติทั่วไป จึงทำให้จะใช้เวลาติดตั้งนานกกว่าแบบทากาวที่มีกาวในตัว และแบบ Click Lock ที่เป็นระบบอัจฉริยะ และวางให้ล็อกติดกันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้กาวเลย

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อกระเบื้องไวนิล ก็ต้องเลือกให้ดีด้วยว่า เราต้องการกระเบื้องไวนิลแบบไหนกันแน่ ที่ตอบโจทย์กับการติดตั้งของเรามากที่สุด โดยถ้าไม่อยากจ้างช่าง ไม่อยากยุ่งยาก การเลือกแบบทากาวและแบบคลิกล็อกก็ตอบโจทย์มากกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกกระเบื้องไวนิลแบบไหน สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องระมัดระวังให้ดี ก็คือ ต้องปรับระดับผิวหน้าของพื้นที่ที่ต้องการปูให้เรียบที่สุด

ไม่เช่นนั้นแล้ว การปูกระเบื้องลงไปก็จะไม่มีประสิทธิภาพ กระเบื้องไม่ยึดติดดี และมีโอกาสเสียหายได้ง่าย อายุการใช้งานสั้นกว่าปกติ

3.วัสดุที่ใช้ทำกระเบื้องไวนิลคืออะไร?

กระเบื้องไวนิลในตลาดนั้น ไม่ได้ทำมาจากวัสดุเดียวกันทั้งหมด โดยสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่ม LVT หรือ Luxury Vinyl Tile

ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่เน้นความสวยงาม หรูหรา ผลิตจากยางหรือโพลิเมอร์ แล้วเคลือบด้วยสารต่างๆ ประกอบกันเพื่อให้เกิดความแข็งแรง กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ SPC Tile หรือ Stone Plastic Composite

ซึ่งจะผลิตจากการผสมกันระหว่าง “กระเบื้อง” กับ “ไวนิล” โดยความแตกต่างระหว่างกระเบื้องไวนิล 2 กลุ่มนี้ คือ เรื่องของความแข็งแกร่ง ซึ่งกลุ่ม LVT จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า แตกหักได้ยากกว่า เพราะเป็นพีวีซีบริสุทธิ์หรือยางล้วน

ในขณะที่กลุ่ม SPC นั้น จะแตกหักง่ายกว่า เพราะมีส่วนผสมของกระเบื้องหินธรรมเดิมอยู่ด้วย แต่ถ้าเทียบกับกระเบื้องปกติทั่วไป กลุ่ม SPC ก็จะมีความยืดหยุ่นมากกว่านั่นเอง ซึ่งในแง่ของราคา กระเบื้องไวนิลกลุ่ม LVT จะมีราคาสูงกว่ากลุ่ม SPC พอสมควร

4.กระเบื้องไวนิลที่ซื้อมีความหนาเท่าไร

หลายๆ คนเวลาเลือกซื้อกระเบื้องไวนิล มักเทียบราคาหลายๆ ร้าน แล้วตัดสินใจซื้อที่ราคาถูกที่สุด ซึ่งเหตุผลที่ทำให้กระเบื้องไวนิลสีเดียวกัน ลายเดียวกัน

ประเภทเดียวกันของแต่ละร้านค้าราคาต่างกันได้นั้น ก็คือ ความหนาที่ไม่เท่ากัน โดยกระเบื้องไวนิลที่มีความหนาน้อย จะมีราคาต่ำกว่ากระเบื้องไวนิลที่มีความหนามากกว่า

เหตุผลก็เพราะ กระเบื้องยิ่งหนา ก็ยิ่งมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานได้มากกว่านั่นเอง โดยความหนาของกระเบื้องไวนิลในท้องตลาดนั้น

มีตั้งแต่ 1.5 มม. ไปจนถึง 4 มม. ซึ่งเราจะเลือกซื้อความหนาเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานในพื้นที่นั้นๆ ว่า มีการสัญจรมากแค่ไหน

กระเบื้องไวนิลนั้น มักเป็นลวดลายไม้ ลายธรรมชาติ จัดเป็นกระเบื้องที่มีความหรูหรา สวยงาม และสร้างบรรยากาศน่าอยู่ให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ในการเลือกซื้อกระเบื้องไวนิล ก็จำเป็นต้องศึกษาด้วยว่า กระเบื้องไวนิลแบบใด ที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด เพื่อให้ได้กระเบื้องไวนิลที่ตอบโจทย์ มีคุณภาพ และแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด