ไม่ว่าจะกระเบื้องปูพื้น หรือกระเบื้องปูผนัง ประเด็นที่ทุกคนมักใช้ในการตัดสินใจเลือกที่สำคัญนอกเหนือจากราคาแล้วก็คือ “สีสันและลวดลาย” ซึ่งโดยมาก เรามักจะมุ่งเป้าไปที่ “สวยหรือไม่สวย” ตามรสนิยมของตัวเราเองโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้ในความเป็นจริง สีสันและลวดลายกระเบื้องนั้น ถือว่าไม่ได้สำคัญเพียงแค่ช่วยส่งเสริมให้ห้อง บ้าน หรือสถานที่ที่เราจะตกแต่งนั้นสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึกที่หากเลือกดี เลือกเหมาะก็ดีไป แต่ถ้าเลือกผิด เลือกไม่ถูกต้องล่ะก็ จะกลายเป็นทำลายบรรยากาศและความรู้สึกดีในมุมการใช้งานไปได้ในทันที ดังนั้น 5 ข้อจากนี้ไป คือเรื่องราวเกี่ยวกับสีสันและลวดลายกระเบื้องที่เราควรทำความเข้าใจไว้ เพื่อให้การตัดสินใจเลือกกระเบื้องของเราคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานให้ได้มากที่สุด

1. กระเบื้องสีโทนอ่อน

แนวพาสเทล และสีสันโทนอ่อน ถือเป็นกระเบื้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีส่วนสำคัญทำให้พื้นที่ดู “กว้างขวาง” และ “ปลอดโปร่ง” มากขึ้น ในพื้นที่เล็กๆ ห้องเล็กๆ นั้น การใช้กระเบื้องปูพื้น และกระเบื้องปูผนังสีสันโทนอ่อน ที่ไม่เน้นลวดลาย หรือเป็นลายไม้ ลายหินอ่อนธรรมชาติ จะสามารถทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้นได้หลายเท่า แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ที่สุดของกระเบื้องสีโทนอ่อน คือแม้จะดูสะอาดตา สบายตา แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอาสในการเป็นเป้าสายตาว่าสกปรกง่าย

ดังนั้น ในมุมของการใช้งาน หากเลือกที่จะใช้กระเบื้องสีโทนอ่อนแล้ว จะต้องมั่นใจว่าสามารถดูแลความสะอาดได้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ความสวยงามจะเป็นเพียงภาพลวงตาชั่วคราวเท่านั้น ยิ่งถ้าหากเราเลือกใช้กระเบื้องสีโทนอ่อนกับพื้นที่ภายนอกอาคาร ที่โดนน้ำ แดด ฝน ลม ฝุ่น ด้วยแล้ว ยิ่งต้องทำใจและให้ความสำคัญกับการดูแลทำความสะอาดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

2. กระเบื้องสีโทนเข้ม

โทนสีกระเบื้องแบบเข้มๆ ไม่ว่าจะเป็น สีดำ ม่วง น้ำตาล ฯลฯ จะให้ความรู้สึกหนักแน่น เรียบขรึม ที่หลายคนอาจมองว่าเท่ เติมความ Smart เก๋ไก๋ ให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ก็ต้องดูองค์ประกอบภาพรวมของพื้นที่ให้ดีด้วย เพราะหากบริเวณที่เราต้องการปูกระเบื้องมีพื้นที่แคบ การปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องสีดำ สีเข้ม จะยิ่งทำให้เพิ่มความรู้สึกอึดอัด รวมถึงหากบริเวณดังกล่าวไม่ได้สว่างมากนัก ก็จะยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นความอึมครึมไปในทันที ในส่วนของเรื่องความสะอาด สีเข้มถือว่าช่วยกลบ ช่วยหลอกตาความเลอะเทอะได้ค่อนข้างดี จึงเป็นที่นิยมใช้ในห้องครัว และห้องน้ำ แต่สำหรับร้านอาหาร หากต้องการใช้สีโทนเข้มล่ะก็ ต้องทำใจไว้เลยว่า ต้องผสมผสานการตกแต่งอื่นๆ ให้ดี เพราะกระเบื้องสีดำ สีน้ำตาลเข้มๆ จะทำให้ร้าน ดูมืด ไม่สว่าง ดูสกปรกได้ จนกลายเป็นร้านกลางคืน ซึ่งหากเราเป็นร้านกลางวันล่ะก็ จะถือว่าเป็นการตกแต่งร้านที่ทำให้เสียโอกาสในการดึงดูดลูกค้าเข้าร้านเลยทีเดียว

3. ลายกระเบื้องฟุ่มเฟือย

ลวดลายแบบเล็กจิ๋ว เป็นลายเส้นจำนวนมาก เป็นรูปทรงเรขาคณิต นั้น ฯลฯ แม้จะมีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และสามารถนำมาจัดเรียงดีไซน์ต่อกันเป็นลวดลายที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเลยข้อหนึ่ง หากไม่ได้รับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ คือจะทำให้พื้นที่ดูรก ยุ่งเหยิง และรบกวนสายตา รวมถึงมีส่วนทำให้พื้นที่ดูแคบลงได้ด้วย หากเลือกใช้อย่างไม่เหมาะสม ดังนั้น ก่อนการเลือกใช้กระเบื้องลวดลายฟุ่มเฟือย จึงต้องวางแผนและออกแบบพื้นที่การใช้งานให้ดี เพื่อให้เมื่อต่อเติมแล้วสร้างความโดดเด่นได้จริงอย่างที่เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน

4. ลายกระเบื้องธรรมชาติ

นับเป็นหนึ่งในลวดลายกระเบื้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะช่วยทำให้เกิดบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง สบายตา เป็นธรรมชาติ รับกันกับแนวคิดของการออกแบบอาคารรักษ์โลก หรือคลุมบรรยากาศความสดชื่นได้ดีหากรอบบริเวณพื้นที่มีสวนหย่อม ต้นไม้ หรือดอกไม้ที่ใช้ในการตกแต่ง แต่ทว่า การจะทำให้เกิดความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ได้นั้น กระเบื้องจะต้องมีลวดลายที่เหมือนธรรมชาติจริงๆ ด้วย เพราะหากกระเบื้องที่เลือกใช้ทำลวดลายออกมาไม่เหมือนธรรมชาติ ก็จะส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งานในพื้นที่ทันที และความปลอม ความดูไม่สมจริงนั้น จะทำลายแนวคิดการออกแบบตกแต่งสไตล์ธรรมชาติลง จนทำให้การลงทุนปูกระเบื้องตกแต่งนั้นกลายเป็นการลงทุนทีเสียเปล่าไปในทันที

5. ลายกระเบื้องแบบภาพพิมพ์

ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตกระเบื้องนั้นสามารถทำลวดลายได้หลากหลายมากๆ รวมถึงยังสามารถพิมพ์ลายแบบเป็นภาพตามต้องการได้อีกด้วย จริงทำให้ยิ่งสามารถเพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งผนังและพื้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเราอยากจะได้กระเบื้องปูผนังลายเสือ ลายนางในวรรณคดี หรือว่าลายผลไม้ต่างๆ ก็สามารถทำได้หมด แต่อย่างไรก็ตาม การตกแต่งพื้นที่ด้วยกระเบื้องลายภาพพิมพ์นั้น ก็มีเรื่องความเป็นมงคล เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงตำแหน่งการจัดวางลวดลายของภาพเพื่อเล่าเรื่องก็สำคัญ คือต้องออกแบบให้ลงตัว พอดี ไม่มากจนเกินไป ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของพื้นที่การใช้งานด้วย เช่น หากเราปูกระเบื้องตกแต่งผนังที่เป็นภาพเอาไว้เต็มพื้นที่ห้องประชุม จริงอยู่ที่อาจทำให้ห้องประชุมดูโดดเด่นสวยงาม แต่ภาพบนผนังที่อยู่ทั่วทั้งห้องนั้น จะดึงดูดความสนใจ แย่งสายตาของผู้เข้าร่วมประชุมไป จนทำให้การประชุมไม่มีประสิทธิภาพได้

สีสันและลวดลายของกระเบื้อง ไม่ได้มีคุณค่าแค่เพียงเรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการช่วยเสริมฟังก์ชั่นการใช้งานในพื้นที่นั้นๆ ที่ต่อเติมตกแต่งให้ตอบโจทย์มากขึ้นอีกด้วย ทั้งทำให้ห้องดูกว้างขวางขึ้น ปลอดโปร่งมากขึ้น สว่าง สะอาดขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนแนวคิดในการออกแบบ และส่งเสริมมงคลให้กับสถานที่ได้ไปพร้อมๆ กัน ดังนั้น ในการตัดสินใจเลือกสี หรือลวดลายกระเบื้อง ทั้งกระเบื้องปูพื้นและกระเบื้องปูผนัง เราจึงควรใส่ใจให้รอบด้าน พิจารณาถึงภาพรวมการใช้งาน ความเหมาะสมและลงตัวของแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด